ผีเสื้อ เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มบ้านนอกที่พึ่งเข้าเมืองกรุงเป็นครั้งแรก เขาอยู่ในร้านอาหารแอร์เย็นเฉียบ โต๊ะอีกตัวมีสองสาวเมืองกรุงกำลังนั่งกินอาหารและพูดคุยกันอยู่
สิ่งที่ชายหนุ่มสังเกตเห็นคือ ดอกไม้พลาสติกที่วางตกแต่งอยู่ในร้าน มันเหมือนจริงมากๆ ถ้าไม่จับดูก็แทบแยกไม่ออกว่าคือดอกไม้จริงหรือไม่

ผู้แต่งอาจจงใจเขียนให่้เกินจริงเพื่อสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจน ว่าเมื่อเรามัวแต่อยู่ในสังคมศรีวิลัยมากเท่าใด เราก็ยิ่งหลงลืมธรรมชาติเราเคยมีมากเท่านั้น
นึกแล้วก็น่าใจหายถ้าหากวันหนึ่ง จะเป็นยุคทีผีเสื้อเป็นของหายาก

ของปลอมคือของปลอม ได้แค่เลียนแบบ แต่ไม่อาจแทนที่
ชายหนุ่มสงสารจึงพยายามจับเจ้าผีเสื้อเพื่อปล่อยออกจากร้าน แต่ก็โดนสองสาวตำหนิว่า
เขาเป็นพวกไม่เห็นคุณค่าของ
จะปล่อยผีเสื้อไปทำไมข้างนอกมันร้อน
น่าจะเอามาสตัฟฟ์มากกว่า ไม่รู้ว่าจะได้เห็นอีกไหม และยังวิจารณ์รูปลักษณ์ของชายหนุ่มว่าดูบ้านนนอก เสียงของสองสาวทำให้ชายหนุ่มรู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาจับใจ...
สองสาวได้ตัดสินชายหนุ่มว่าทำผิด ว่าเป็นคนไม่ดีเพียงเพราะคิดไปเองว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิด
ทั้งๆที่ความคิดของพวกเธอเองนั้นตังหากที่่ดูไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
"คนทำผิดแล้วรู้ว่าผิด ยังไม่น่ากลัวเท่าคนทำผิดแล้วไม่รู้ตัวว่าผิด..."หากคนในสังคมมืองกรุงยังมีอุปนิสัยแบบนี้ อนาคตสังคมเราคงย่ำแย่แน่ๆ
คนบ้านนอกอย่างชายหนุ่มรู้จักที่จะปล่อยผีเสื้อให้เป็นอิสระ คืนความงามให้ธรรมชาติผู้ให้กำเนิด แต่คนในเมืองอย่างสองสาวกับอยากจะเก็บทุกอย่างเอาไว้ครอบครองชื่นชมแต่ผู้เดียว
ผีเสื้ออาจแทนตัวชายหนุ่ม เหมือนมาอยู่ในสถานที่ที่ไม่ใช่ที่ของตัวเอง เขาจึงเข้าใจเจ้าผีเสื้อว่า ถึงแม้อากาศข้างนอกมันจะร้อนไม่สะดวกสบายเหมือนในร้าน แต่ข้างนอก(บ้านนอก)มีแต่ของจริง ไม่ใช่ของปลอมเหมือนดอกไม้พลาสติก
เจลดา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น