วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

วิเคราะห์สภาพสังคมจากนวนิยายเรื่อง “เรื่องของจัน ดารา”




         เรื่องของจัน ดารา แต่งโดย อุษณา เพลิงธรรม
            เรื่องของจัน ดารา เป็นนวนิยายเชิงสังวาส (Erotic) เดิมตีพิมพ์เป็นตอนๆ ลงในนิตยสารสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ตั้งแต่ฉบับวันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2507 และได้ตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2508
หนังสือที่นำมาอ้างอิง คือ เรื่องของ จันดารา  พิมพ์ครั้งที่12 โดยสำนักพิมพ์มติชน ปี พ.ศ. 2545
เรื่องของ จันดาราเป็นบันทึกชีวิต ผ่านมุมมองของจัน ดาราที่เห็นว่าคนรอบข้างล้วนมีพฤติกรรมและจิตใจจ่อมจมอยู่ในกามและตัวเขาเองก็เช่นกัน ซึ่งอุษณา เพลิงธรรม เขียนไว้ในคำนำว่า "ขอบอกกล่าวไว้เสียด้วยว่า เป็นเรื่องอ่านเล่นซึ่งไม่ใช่ของสำหรับเด็ก และเป็นของแสลงอย่างยิ่งสำหรับบุคคลประเภทมือถือสากปากถือศีล" ต่อมานวนิยายเรื่องนี้ก็ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หลายเวอร์ชั่นอีกด้วย

เนื้อเรื่องย่อ        
"จัน" เด็กชายผู้ถือกำเนิดจาก "ดารา" สาวสวยเศรษฐีนีผู้เคราะห์ร้าย ถูกกลุ่มโจรรุมขืนใจจนตั้งครรภ์ และไม่อาจทราบได้ว่าใครคือบิดาของเด็กในท้อง ญาติผู้ใหญ่จึงได้ว่าจ้างจัดหา "คุณหลวงวิสนันท์เดชามารับบทบิดาของเด็ก...วันที่จันถือกำเนิดดาราได้เสียชีวิตลง ด้วยเหตุนี้ทำให้คุณหลวงฯ ผูกใจเกลียดเด็กที่เกิดมา ทั้งประณามด้วยการตั้งชื่อว่า จัญไร ทุกคนจึงเรียกเขาว่า จันส่วนนามสกุลจันได้ใช้ชื่อของมารดามาเป็นนามสกุล เป็นที่มาของชื่อ จัน ดารา นั่นเอง นับแต่นั้นคุณหลวงฯไม่เคยทำตัวเป็นบิดาที่ดีเลย เขาสุขสบายอยู่ท่ามกลางกองเงินกองทองของดารา และมั่วสุมทางเพศกับบรรดาสาวใช้ไม่เว้นวัน จันจึงเติบโตมากับความเกลียดชังและอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่มีแต่เรื่องคาวโลกีย์ โชคยังดีที่น้าวาดน้องสาวจากจังหวัดพิจิตรของดาราอาสามาช่วยเลี้ยงจัน แต่ทว่าเธอกลับตกเป็นเมียอีกคนของคุณหลวงฯและได้ให้กำเนิดบุตรสาวชื่อคุณแก้ว หรือ ด.ญ วิไลเลขซึ่งเหมือนบิดาทุกระเบียดนิ้ว เพราะแทนที่จะโตมาเป็นพี่น้องเพื่อนเล่นกับจัน เธอกลับมีอคติและเห็นจันเป็นศัตรู จันมีเพื่อนเพียงคนเดียวคือ นายเคนกระทิงทอง หรือ ไอ้เคน บุตรชายของแม่พุ่มคนครัว หนุ่มน้อยที่หมกมุ่นเรื่องเพศอย่างมาก...ต่อมาคุณหลวงได้รับภรรยาเก่าที่ย้ายมาจากต่างประเทศคุณบุญเลื่อง และลูกชาย “คุณขจร” เข้ามาอาศัยอยู่ร่วมกัน และคุณบุญเลื่องนี่แหละคือคนที่สอนให้จันได้รู้ซึ้งถึงสัมพันธ์สวาทแบบชายหญิงเต็มรูปแบบ ในขณะที่ในบ้านมีแต่เรื่องอย่างว่า จันก็ได้มอบความรักให้ไฮซินซ์ เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ความรักที่จันมีต่อเธอนั้นเป็นรักอันบริสุทธิ์และถูกแยกออกจากอารมณ์กำหนัดทางเพศของเขาโดยสิ้นเชิง
            ชีวิตของจันเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อคุณแก้วใส่ไฟว่าถูกจันลวมลามหมายจะข่มขืน ทำให้คุณหลวงฯไล่จันออกจากบ้าน และครานั้น จันได้รู้ความจริงว่าคุณหลวงฯไม่ใช่บิดาของเขา...จันกลับไปอาศัยอยู่ร่วมกับ “คุณตา” ที่พิจิตรนานหลายปี ระหว่างนั้นเขาก็สืบหาเรื่องบิดาและได้รู้ว่ากลุ่มโจรที่ข่มขืนมารดาของเขานั้นได้ถูกวิสามัญไปหมดแล้ว สุดท้ายจันก็ไม่ทราบว่าใครเป็นบิดาของเขา...วันหนึ่งกรงล้อแห่งกรรมได้ทำให้คุณแก้วตั้งครรภ์และคุณหลวงฯต้องการใครสักคนมารับบทบิดาให้กับเด็กในท้อง จันจึงใช้โอกาสนี้กลับไปแก้แค้นและถ่วงคืนทุกอย่างที่เป็นทรัพย์สมบัติของมารดากลับคืนมา จันรีบไปหา ไฮซินซ์ แต่กลับได้รับข่าวร้ายว่าเธอได้เสียชีวิตไปแล้วจากโรคระบาด จันรู้สึกเคว้งคว้างและสะเทือนใจอย่างมาก...ชีวิตสมรสแต่ในนามของจันกับคุณแก้วดำเนินไปพร้อมกับความสัมพันธ์สวาทระหว่างจันกับคุณบุญเลื่อง และคุณแก้วกับคุณบุญเลื่อง นั่นทำให้จันได้รับรู้ถึงความวิปริตผิดเพศของคุณแก้ว เด็กในครรภ์ของคุณแก้วนั่น กำเนิดมาจากคุณขจร เหตุเพราะประชดบิดา และหึงหวงคุณบุญเลื่องนั่นเอง ซึ่งท้ายที่สุดความวิปริตผิดเพศของคุณแก้วก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นยอมตัดผมสั้นกุด และแต่งตัวแบบผู้ชาย ส่วนเด็กที่เกิดมานั้นก็มีอาการพิการทางสมองเพราะคุณแก้วกับคุณขจรมีสายเลือดฝ่ายบิดาร่วมกัน คุณแก้วได้ประณามบุตรของเธอว่า“เด็กอัปปรีย์” ไม่ต่างจากที่คุณหลวงฯเคยประณามจัน ต่อมาเด็กคนนี้ได้ชื่อว่า“ด.ช.ปรีย์ ดารา” วันหนึ่งคุณหลวงซึ่งได้ทิ้งลายเสือผู้หญิงและไร้อำนาจในฐานะเจ้าของบ้านแล้วนั้น ได้ล่วงรู้ว่าจันและคุณบุญเลื่องมีแอบสัมพันธ์กัน เขาตกใจเป็นอย่างมากจนถึงกับล้มป่วยเป็นอัมพาตทั้งตัว ซึ่งจันก็ไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด จันดำเนินชีวิตตามแบบคุณหลวงฯคนที่เขาเกลียดโดยไม่รู้ตัว เขามีความแค้นและอารมณ์กำหนัดล่อเลี้ยงชีวิตไปวันๆ ส่วนน้าวาดเมื่อรู้เรื่องทั้งหมดก็ตัดสินใจบวชชีตลอดชีวิต
ท้ายที่สุดแล้วความแค้นก็ไม่เคยให้คุณแก่ใคร ชีวิตในปัจจุบันของจันไม่มีใครอยู่เคียงข้าง มีก็เพียงทรัพย์สมบัติที่ถ่วงคืนมาจากคุณหลวงฯได้เท่านั้น ทั้งยังผจญกับปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศด้วยวัยเพียง 40 ปี เมื่อจันไม่สามารถมีสัมพันธ์สวาทกับใครได้อีก ชีวิตของเขาก็ว่างเปล่า และทำให้เขาตระหนักได้ว่าบัดนี้ตนเองก็ไม่ได้ต่างจากคุณหลวงฯเลยสักนิด นวนิยายเล่มนี้จึงเป็นบทบันทึกเรื่องราวชีวิตทั้งหมดของเขา โดยเขาได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าคุณเห็นชายวัยกลางคน รูปร่างหน้าตาดี แต่งกายสุภาพเรียบร้อย แต่ทั้งที่ลักษณะท่าทางดูจะเป็นคนสมบรูณ์พูนสุขดี ก็ยังดูเศร้าสร้อยแฝงความหมดอาลัยตายอยากอยู่ละก้อ...ช่วยแผ่เมตตาให้บ้างก็แล้วกัน (เรื่องของจัน ดารา, อุษณา เพลิงธรรม, หน้า380)


นวนิยาย เรื่องของจันดารา สะท้อนสังคมเรื่อง
ค่านิยมเรื่องฐานะหน้าตาทางสังคม
สะท้อนผ่านตระกูลของดารา เพราะเป็นตระกูลเศรษฐี มั่งมี มีหน้ามีตา การที่ลูกสาวถูกขืนใจจนตั้งครรภ์นับเป็นเรื่องที่ญาติผู้ใหญ่รับไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันการที่หญิงสาวตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจไม่ว่าจะด้วยยิมยอมหรือถูกข่มขืนก็เป็นเรื่องน่าอายและไม่ควรเอ่ยถึงเช่นกัน แต่สิ่งที่คุณตาของดาราเลือกเป็นหนทางการแก้ปัญหา กลับเป็นการยอมเสียทรัพย์สมบัติมากมายเพื่อจ้างคุณหลวงฯมารับบทเป็นพ่อเด็กในครรภ์ โดยไม่ได้คำนึงเรื่องชีวิตของดาราและลูกที่กำลังจะเกิดมาเลย ซึ่งการตัดสินใจของคุณตาในครั้งนี้ก็เป็นสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนั่นเอง
สังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่
สะท้อนผ่านบ้านที่ปกครองโดยคุณหลวงวิสนันท์เดชา เขามีภรรยาถึง3คน ได้แก่ ดารา,น้าวาด และ คุณบุญเลื่อง สะท้อนสังคมไทยที่ผู้ชายสามารถมีภรรยาได้หลายคน อีกทั้งคุณหลวงฯยังใช้อำนาจในการบังคับขืนใจผู้หญิงทุกคนในบ้านให้ตกเป็นทาสกามอารมณ์ของเขา โดยจันได้กล่าวไว้ว่า
...เด็กคนไหนถ้าไม่ใช่ลูกของผัวเมียคู่หนึ่งคู่ใดในบ้าน ก็เป็นลูกโดยพฤตินัยของเขาทั้งนั้น (เรื่องของจัน ดารา, อุษณา เพลิงธรรม, หน้า33) โดย เขา ที่ว่าคือ คุณหลวงฯนั่นเอง
ตัณหาราคะที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน
นวนิยายเรื่องนี้ใช้เรื่องกามอารมณ์ในการดำเนินเรื่อง ตัวละครเองก็ใช้เรื่องกามอารมณ์เป็นเครื่องต่อรองอยู่หลายสถานการณ์ ทุกตัวละครล้วนแสดงให้ผู้อ่านเห็นถึงพลังของตัณหาราคะในรูปแบบที่กล่าวเกินจริงเพื่อให้เกิดภาพที่ชัดเจน และบอกผู้อ่านว่า อย่าทำตามตัวละครเหล่านี้เลย ไม่เช่นนั่นผู้อ่านจะได้พบกับโศกนาฏกรรมดั่งเช่นตัวละครในเรื่อง  โดยแบ่งเป็นฝ่ายผู้กระทำ และผู้ถูกกระทำ
ผู้กระทำ             -คุณหลวงฯ แบบอย่างของชายวัยกลางคนที่ใช้อำนาจความเป็นใหญ่ บังคับขืนใจหาความสำเริงสำราญจากผู้หญิง โดยไม่รู้ผิดชอบและไม่มีความยำเกรง แม้แต่ต่อหน้าเด็กอย่างจัน หรือการมีสัมพันธ์กับสาวใช้ในห้องที่มีรูปของดาราผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาตัวเองก็ไม่เว้น
-จอม ทั้งๆที่จอมรักใคร่ชอบพออยู่กับน้าวาด แต่ทันทีที่ได้เห็นดาราก็หลงไหลขาดการยับยั้งชั่งใจ ถึงขั้นชวนเพื่อนๆไปรุมฉุดและขืนใจดารา นับว่าเขาและเพื่อนก็เป็นอีกสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
-คุณบุญเลื่อง ตัวแทนผู้หญิงที่หาความสำราญจากการมีสัมพันธ์สวาท เธอเลือกใช้จันเป็นที่บำบัดระบายความใคร่ โดยไม่คำนึงเลยว่าเหมาะสมหรือไม่
ผู้ถูกกระทำ         -ดารา ผู้ที่ต้องแบกรับความเจ็บช้ำทั้งทางกายและทางใจ หลังโดยข่มขืนก็ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก เสียทรัพย์สมบัติเพื่อรักษาหน้าตาของวงตระกูล
-น้าวาด เธอต้องเจ็บปวดที่คนรักได้ฉุดพี่สาวของตัวเอง ด้วยความรู้สึกผิดนั่นจึงอาสามาขอเลี้ยงดูจันจนต้องตกเป็นภรรยาของคุณหลวงฯ
-จัน เด็กที่โตมาในสภาพขาดทั้งพ่อและแม่ การไม่ได้รับความรักและการดูแลที่เหมาะสม ทำให้จิตใจของจันไม่อยู่ในสถาวะของเด็กปกติ ทั้งอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างชั้นดีในเรื่องกามอารมณ์ จึงไม่ได้แปลกใจที่แม้จันเดินตามรอยเท้าคุณหลวงฯ
ตามหลักจิตวิทยาที่ว่าจิตใต้สำนึกของคนจะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ช่วงปฐมวัย เด็กจะซึมซับสิ่งที่เรียนรู้มาในช่วง5ปีแรกของชีวิต กลายมาเป็นพฤติกรรมและลักษณะนิสัยเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
-คุณแก้ว เด็กที่แท้จริงแล้วก็ไม่ได้เกิดมาจากความตั้งใจ และสาเหตุที่ทำให้คุณแก้วมีการเบี่ยงเบนทางเพศนั้น ตามหลักจิตววิทยากล่าวว่า ในช่วงปฐมวัยเด็กหญิงจะรักพ่อและเกลียดแม่จึงพยายามทำตัวเลียนแบบแม่เพื่อให้พ่อรัก นี่จะทำให้เด็กหญิงได้เรียนรู้การเป็นกุลสตรี แต่น้าวาดน่าจะไม่ค่อยได้ใกล้ชิดคุณแก้วจึงอาจเป็นเหตุทำให้รสนิยมทางเพศเกิดการเบี่ยงเบน มีเพียงคุณหลวงฯที่เป็นแบบอย่าง และในกรณีเดียวกันกับจัน คุณแก้วก็ได้ซึมซับเรื่องกามอารมณ์และใช้กามอารมณ์เป็นเครื่องมือทำลายผู้อื่นจากคุณหลวงฯเช่นกัน
ทำให้ได้ข้อสรุปที่ว่า เมื่อแรกเกิดมาทุกคนใสสะอาดหมด เพียงแต่การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อมได้ปรุงแต่งจิตใจเด็กให้เอนเอียงไปในทางบวกหรือลบ เมื่อผู้ใหญ่ที่ควรมรวุฒิภาวะและมีความยับยั้งชั่งใจกลับไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็ก ปล่อยให้เรื่องที่ควรรู้กันในที่ลับกลายเป็นมาประจักษ์ในที่แจ้ง เด็กก็จะซึมซับและเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่มีทางเลยที่เด็กจะไม่ทำตาม ชีวิตของเด็กที่เติบโตมาในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ก็คงมีจุดจบเดียวกับคุณแก้วและจัน
ความสุขของคนเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัยพย์สมบัติหรือเรื่องกามอารมณ์ แต่คือความอิ่มอกอิ่มใจ มีคนที่เรารักและรักเราตังหากอยู่เคียงข้างตังหาก จัน และ คุณหลวงฯ ที่ยึดติดหมกหมุ่นในเรื่องกามอารมณ์ ใช้เรื่องอย่างว่าในการดำเนินชีวิตเมื่อถึงวันที่ไม่อาจมีเรื่องอย่างว่าได้อีกก็จะพบว่าท้ายที่สุดแล้วชีวิตไม่เหลืออะไรเลย มีเพียงความว่างเปล่
ความเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม
สะท้อนให้เห็นถึงกรรม หรือผลของการกระทำ ทุกตัวละครไม่ได้มีจุดจบที่สวยงามเลย แต่เป็นจุดจบที่สมควรแล้วกับตัวละครนั้นๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับควาเชื่อของพุทธศานิกชนที่ว่าทำอย่างไรได้อย่างนั้น หรือ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วนั่นเอง  

โดย เจลดา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น