วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559
การเติบโตของเด็กชายที่ไม่มีวันโต Peter Pan
ใน The Little White Birds วรรณกรรมที่เปิดตัว ตัวละคร Peter Pan มีแนวคิดว่าก่อนที่มนุษย์เกิดมาจากวิญญาณของนก และเมื่อเด็กมากำเนิดในครรภ์มารดา เด็กแรกเกิดจะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นมนุษย์จึงยังคงสามารถบินได้อยู่
Peter Pan ก็เช่นกันที่กิดมาแล้วสามารถบินได้ เขาบินเข้าไปในสวน Kensington Gardens จนกระทั่ง Peter Pan หยุดบินพักเหนื่อยบนต้นไม้ ผู้เฒ่ากา Solomon ได้บอกความจริงกับเขาว่าเขาเป็น"เด็กทารก"
Peter Pan ได้สูญเสีย "ความเชื่อ" และ ความสามารถที่จะบินไปทันทีเขาจึงไม่อาจบินกลับไปหาแม่ของเขาได้อีก ต่อมาจากโครงเรื่องนี้ก็พัฒนาขยายมาเป็นPeter Pan ที่เรารู้จัก
Peter
Pan
เห็นตัวเองเป็นสำคัญยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเสมือนมีไว้เพื่อตัวเขาเพียงคนเดียว
เขาไม่สนใจความเป็นไปรอบข้าง สนแค่ตัวเขากับสิ่งที่เขาอยากจะทำ
ไม่มีสำนึกดีหรือชั่ว
ปราณีหรือโหดร้าย (จากการกระทำของปีเตอร์ที่กระทำต่อพวกโจรสลัดหรือฮุก ล้วนโหดร้าย) เขาป่าเถื่อนแต่กลับอ่อนไหวเปราะบางต่อความเจ็บปวดในใจ(เรื่องในอดีตที่พ่อแม่ลืมเขา)
กล้าหาญ ไม่เกรงกลัวอันตราย เขาชอบโอ้อวด ชอบเรื่องสนุกท้าทาย การผจญภัยมากมายที่รอเขาอยู่
เขาหลงลืมทุกอย่างได้รวดเร็ว(ไม่เว้นแม้แต่เวนดี้ บางทีเขาก็ลืมชื่อเธอ
แม้แต่คำสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าเขาจะไม่ลืมเธอ เขาก็ลืม...) เขารู้จักเพียงแค่เมื่อวานกับวันนี้
เขาไม่เข้าใจกระทั่งว่า "จูบ" กับ "ปลอกสวมนิ้ว" ต่างกันอย่างไร และแยกไม่ออกระหว่างเรื่งจริงและเรื่องสมมติ
เขาปฏิเสธการใช้เหตุและผลแบบ "ผู้ใหญ่" รวมถึงปฏิเสธการเติบโต เขาอยากใช้ชีวิตที่มีแต่ความสนุกที่เนฟเวอร์แลนด์ แต่นั่นก็ต้องแลกกับการที่เขาไม่สามารถกลับไปหาแม่ขแงเขาได้ทั้งแม่จริงๆ
หรือเวนดี้ที่เล่นเป็นแม่ให้เขาก็ตาม
หนังเวอร์ชั่นี้สนุกมาก หน้าตาตัวละครก็ถูกจริตทั้งหญิงชาย
.........................................................................
เวนดี้
ตัวแทนของเด็กที่กำลังจะโตขึ้น ในตอนแรกเวนดี้ยอมตามปีเตอร์ไปยัง Neverland ด้วยเหตุผลแค่อยากเห็นนางเงือกและความมหัศจรรย์อื่นๆ
แต่เมื่อเธอได้เริ่มทำหน้าที่ของ "แม่" ให้กับเหล่า
เด็กหลง เวนดี้ก็เริ่มรู้สึกถึงความรับผิดชอบ และ ความรักของแม่
สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจจะพาเหล่า เด็กหลงทาง และน้องๆกลับไปยังโลกแห่งความจริงเพื่อกลับสู่อ้อมอกของแม่
เพราะเธอเชื่อว่าพ่อแม่จะยังเปิดหน้าต่างรอเธออยู่เสมอ
สิ่งที่ต้องยอมรับคือ "เราหนีไปเหมือนสิ่งที่ไร้หัวใจที่สุดในโลก
เราใช้เวลาคิดถึงแต่เรื่องของตัวอง จากนั้นเมื่อเราต้องการความใส่ใจเป็นพิเศษ
เราก็กลับไปอย่างอกผายไหล่ผึ่งมั่นใจว่าจะได้รับกอดมากกว่าการโดนตี"
นั้นหมายถึงเด็กๆ จากพ่อแม่มาเพียงเพาะความากสนุก แต่พอวันหนึ่งที่อยกจะกลับไป เด็กก็รู้อยู่เต็มอกว่าพ่อแม่จะมอบความรักให้แก่เขาเสมอแม้พวกเขาจะทำผิดก็ตาม(เห็นแก่ตัวเนอะ...แต่นี่แหละเด็ก)
...................................................................
"เมื่อทารกแรกเกิดหัวเราะเป็นครั้งแรก
จะมีภูตพรายตนหนึ่งเกิดใหม่ขึ้น"
มนุษย์เราเป็นสิ่งที่ชื่นชอบความเพ้อฝัน
ในตอนที่เรายังเด็ก ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกดูจะตระการตาไปหมด
สำหรับสายตาพึ่งเกิด จึงทำให้เขาพร้อจะเชื่อเรื่อง "เวทมนต์" พวกเด็กพร้อมจะเชื่อเรื่อง แฟรี่ ทุกครั้งที่เด็กเกิดจึทำให้มีภูตพรายตัวหนึ่งเกิดขึ้น
"และทุกครั้งที่เด็กคนใดพูดว่า 'ฉันไม่เชื่อว่าภูตพรายมีจริง'
ภูตพรายสักตน ซึ่งอยู่ที่ไหนสักแห่ง
จะร่วงหล่นลง แล้วก็ตายไป"
แต่เมื่อเติบโตขึ้น "ความเชื่อ" ก็ถูกแทนที่ด้วย "ความรู้"
จากจินตนาการหายไปเหตุผลเข้ามาแทนที่
ความฝันและจินตนาการกลายเป็นเพียงสิ่ง "ไร้สาระ"
เมื่อเราหมดความเชื่อ
เหล่าแฟรี่ก็ถึงจุดจบในใจของพวกเรา
Neverland เองขึ้นอยู่กับความเชื่อเมื่อกัน เนฟเวอร์แลนด์ไม่มีรูปร่างที่ตายตัวมันจะปรับเปลี่ยนไปตามจิตนาการความเชื่อความฝันของเด็กๆ
ดินแดนที่พวกเขาจะมีความสุขเมื่อได้อยู่ที่นั้น
การบิน
ปีเตอร์คือคนเดียวที่สามารถบินได้โดยไม่ต้องใช้ละอองนางฟ้า
เมื่อเขาพยายามสอนเด็กๆครอบครัวดาร์ลิ่งให้บิน
เขาก็บอกแต่เพียงว่า
"เธอก็แค่นึกถึงเรื่องอะไรที่มีความสุขมากๆ แล้วความคิด
นั้นก็จะยกตัวเธอให้ลอยขึ้นไปในอากาศเองแหละ..."
ละอองนางฟ้า ถูกเพิ่มเข้ามา ในภายหลัง
ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่เดิม ปีเตอร์ และ เด็กๆสามารถบินลำพัง แต่หลังจากที่มีรายงานว่าเด็กได้รับบาดเจ็บ
เพราะพยายามฝึกบินโดยการกระโดดลงจากเตียงเจมส์ แบร์รี่จึงเพิ่ม ละอองนางฟ้าเป็นปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการบินเข้าไป
ถึงแม้ว่าเด็กๆจะไม่อยากโตแต่การแสดงทั้งหมดในเรื่องก็เหมือนเด็กๆอยากโตนั้นแหละ
การสมมติเป็นพ่อแม่ของปีเตอร์และเวนดี้ การทำอาหาร มีเวลากินเวลานอน การต้องกินยา
ก็คิดการฝึกระเบียบวินัยให้ทุกคนมีสีระเบียบและมีความรับผิดชอบ รู้จักหน้าที่ของตน
ก็เหมือนการเล่นเพื่อเตรียมพร้อมเป็นผู้ใหญ่
ฉากที่เวนดี้ป่วย ปีเตอร์สั่งให้เด็กหลงไปตามหมอ ซึ่งที่เนฟเวอร์แลนด์ไม่มีหมอ
หมอที่ว่ามาจากการเล่นบทบาทสมมติและที่แย่คือปีเตอร์แยกไม่ออกว่านี่คือการสมมติ
ถ้าเวนดี้เกิดป่วยหนักขึ้นมาจริงๆ เธออาจจะไม่รอดไปแล้วก็ได้
ดั้งนั้นเด็กควรมีผู้ใหญ่ดูแล
พวกผู้ใหญ่มีทั้งคนดี(พ่อ แม่
พวกผิวแดง)และไม่ดี(โจรสลัด)
การต่อสู้ระหว่างเด็กหลงกับพวกโจรสลัด
แสดงให้เห็นว่าเด็กก็สามารถทำอะไรที่ใหญ่เกินตัวได้และฝ่ายธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ
เจดีย์ เจลดา
เรื่องย่อ ปีเตอร์ แพน จากวรรณกรรม Peter Pan
ครอบครัวดาร์ลิ่ง
มีหัวหน้าครอบครัวคือมิสเตอร์ดาร์ลิ่ง มีนิสัยค่อนข้างจะโอ้อวดและงี่เง่า
เขามักมีปัญหากับการผูกหูกระต่ายเสมอ แต่เขาคือผู้พิชิตใจมิสซิสดาร์ลิ่งและได้แต่งงานกับเธอเพียงเพราะเขานั่งแท๊กซี่มาหาเธอที่บ้านเลยมาถึงก่อนผู้ชายคนอื่นๆที่วิ่งมา
มิสซิสดาร์ลิ่งมักมีรอยยิ้มเจือที่ริมฝีปากเสมอ เธอมีจิตานาการที่เต็มเปี่ยม จิตนาการของเธอเปรียบเหมือนกล่องใบเล็กๆที่เมื่อเปิดออกก็จะเจอกล่องใบที่เล็กกว่าซึ่งไม่เคยค้นเจอกล่องไปสุดท้าย
ตอนเวนดี้เกิดครอบรัวต้องคิดหนักเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านโดยฉพาะมิสเตอดาร์ลิ่งเพาะเขาเป็นคนที่ทุกย่างต้องมระบบระเบียบไม่อยากเสี่ยงอะไร
และหนักขึ้นมื่อมีจอห์และไมเคิล และเพราะฐานะที่ไม่ค่อยจะสู้ดีของครอบครัว
แต่มิสเตอดาร์ลิงก็อยากให้ลูกๆมีพี่เลี้ยงเด็ก พี่ลี้ยงเด็กของเด็กๆจึงกลายเป็น
เจ้าหมานาน่าที่ดูแลเด็กๆดีกว่าพี่เลี้ยงบางคนเสียอีก
บ้านสุนัขของนาน่าก็ตั้งอยู่ในห้องนอนเด็กๆด้วย
เนฟเวอร์แลนคือแดนในจิตนาการของเด็กทุกคนขณะพวกเขาหลับ
และปีเตอแพนก็คือเรื่องเล่าสมัยตอนมิสซิสดาร์ลิงยังเป็นเด็ก ว่าปีเตอร์จะเดินทางไปกับเด็กๆที่เสียชีวิตระยะหนึ่งเพื่อไม่ให้เด็กตกใจ
แต่ก่อนมิสซิสดาร์ลิงก็เคยเชื่อแต่ตอนนี่เธอโตแล้ว ปีเตอร์ แพนจึงมาอยู่ในความคิดของลูกๆของเธอแทน
คืนหนึ่งปีเตอร์ แพนเข้ามาในห้องนอนของเด็กๆโดยมีมิสซิสดาร์ลิ่งนั่งหลับอยู่ข้างเตาผิง
มิสซิสดาร์ลิ่งตกใจมากเธอกรี๊ดเสียงดัง ปีเตอร์กระโดหนีหายไปทางหน้าต่างแต่นาน่างับเงาของเขาเอาไว้ได้
มิสเตอร์และมิสซิสดาร์ลิงกังวลกับเรื่องปีเตอร์และเงาของปีเตอร์มากแต่ด้วยความงี่เง่าของมิสเตอร์ดาร์ลิงเขาตัดสินใจย้ายนาน่าไปอยู่นอกบ้าน
ไม่มีคนคอยดูแลเด็กๆแล้วในยามค่ำคืน
คืนหนึ่งมิสเตอร์และมิสซิสดาร์ลิงออกไปนอกบ้าน
ดวงดาวนท้องฟ้าเฝ้าดูพวกเขาจนพ้นทางและให้สัญญาณ “เอาเลย
ปีเตอร์”ทิงเกอร์เบล เข้ามาในห้องเด็กก่อนตามด้วยปีเตอร์ ทั้งคู่รื้อห้องเด็กเพื่อหาเงาของปีเตอร์
และเมื่อเจอแล้วปีเตอร์ก็พยายามอย่างมากที่จะติดเงาของเขาเข้ากับตัวแต่ไม่สำเร็จ
เขานั่งร้องไห้ เสียงร้องไห้ของเขาปลุกเวนดี้ให้ตื่น
เธอเย็บเงาให้เขาทั้งคู่แนะนำตัวกัน ปีเตอร์เล่าเรื่องแฟรี่ให้เวนดี้ฟังและแนะนำทิงเกอร์เบลให้เธอรู้จัก
ดูเหมือนทิงจะไม่ค่อยชอบเวนดี้ ปีเตอร์เล่าเรื่องพวกเด็กหลง
เด็กที่ผลัดตกจากรถเข็นตอนที่พี่เลี้ยงมองไปทางอื่น ถ้าไม่มีคนมารับภายในเจ็ดวันพวกเขาก็จะถูกส่งไปเนฟเวอร์แลนด์เพื่อลดค่าใช้จ่าย
ซึ่งเด็กหลงมีแต่เด็กผู้ชาย เพราะเด็กผู้หญิงฉลาดเกินกว่าจะตกมาจากรถเข็น
ทั้งคู่ให้ปลอกนิ้วกับกระดุมกันในคืนนั้น(จูบ)
และแลกจูบกันเช่นกัน(ปลอกนิ้วและกระดุม)เวนดี้แขวนกระดุมไว้กับสร้อยคอ ปีเตอร์บอกว่าพวกเด็กหลงเหงามากๆและเขามาที่นี้เพื่อมาฟังนทานที่มิสซิสดาร์ลิงเล่าและกลับไปเล่าให้เด็กหลงฟัง
เวนดี้บอกว่าเธอรู้นิทานมากมาย ปีเตอร์จึงคิดจะเอาเธอไปเนฟเวอร์แลนด์ไปดูแลเด็กหลง
เวนดี้ปลกุจอห์นและไมเคิล ปีเตอร์สอนพวกเขาบินโดยให้นึกถึงสิ่งที่มีความสุข เขาเป่าละอองแฟรี่ใส่พวกเขา
ทุกคนสนุกกับการบินเล่นในห้อง ดวงดาวร้องเตือน เมื่อมิสเตอร์และมิสซิสดาร์ลิงกำลังกลับมา
ทั้งหมดบินออกไปทันพอดี
ทั้งหมดบินมาถึงเนฟเวอ์แลนด์
เวนดี้ จอห์นและไมเคิลก็ต้องตกใจเพราะดินแดนที่พวกเขาเห็นมันเหมือนเนฟเวอร์แลนด์ที่พวกเขาเคยจิตนาการ
ระหว่างพวกเขาบินอยู่เหนอเนฟเวอร์แลนด์ จู่ๆความมืดก็เข้าปลุกคลุม
ปีเตอร์เล่าว่ามีโจรสลัดและกัปตันของเหล่าโจรสลัดคือฮุก
เขากล่าวอย่างเกลียดชัง เด็กๆตกใจ “เจมส์
ฮุกหรอ” ขาเคยเป็นหัวหน้ากะลาสีของเคราดำ
เขาเป็นคนร้ายที่สุดในโจรสลัด ปีเตอร์ยังเล่าอีกว่าเขาตัดมือขวาของฮุก
และฮุกแทนที่มันด้วยตะขอ
ระหว่างที่พวกเขาบินในความมืด
พวกโจรสลัดยิงปืนใหญ่ใส่พวกเขา ไม่มีใครเป็นอะไรแต่ลมจากปืนใหญ่พัดปีเตอร์ไปไกล
จอห์นและไมเคิลด้วย ส่วนเวนดี้ก็ถูกพัดมาพร้อมทิง
ทิงมีความคิดร้ายๆเพราะความอิจฉาแบบผู้หญิง ทิงจึงลวงเวนดี้ให้บินตามเธอไป
ทางเนฟเวอร์แลนด์เมื่อรู้สึกว่าปีเตอร์กำลังกลับมาทุกคนและทุกสิ่งก็เหมือนถูกปลุกให้ตื่น ตอนนี้มีพวกเด็กหลงอยู่6คน หนึ่งในนั้นคืน ทู้ตเทิลส์
ผู้ที่ไม่เคยมาทันการต่อสู้เขามักจะกลับมาตอนที่ทุกอย่างจบลงแล้ว
นั้นทำให้เขามีประสบการณ์น้อยที่สุดในเด็กหลงและหลอกง่ายที่สุด
ซึ่งทิงก็รู้ข้อนี้เป็นอย่างดี
ที่เนเวฟแลนพวกเด็กหลงออกเดินทาง
ตามมาด้วยพวกโจรสลัด ตามมาด้วยพวกผิวแดง ต่อด้วยพวกสัตว์ป่า
และสุดท้ายจระเข้ตัวใหญ่ยักษ์ เดินวนเป็นวงจรไม่รู้จบจนกว่าจะมีใครหยุดเดิน
ด้านฮุก เขาเล่าเรื่องให้ซมีฟังเรื่องมือขวาอย่างเครียดแค้นปีเตอร์
ปีเตอร์ตัดมือขวาของเขาและโยนให้จระเข้ยักษ์กิน มันติดใจรสชาติของฮุกตั้งแต่นั้นเจ้าจะเข้นั่นก็ตามล่าฮุกเพื่อจะกินส่วนที่เหลือ
และเขาเคยเกือบโดนมันขเมือบมาแล้วแต่โชคดีที่มันดันงับนาฬิกายักษ์ก่อน ดังนั้นจะมีเสียงติ๊กตอกเวลาเจ้าจระเข้มันโผล่มา
ถ้าได้ยินเสียงติ๊กตอกเขาจะหนีทันที
ตกดึกทิงพาเวนดี้บินมาถึง
เธอหลอกเด็กๆว่าเวดี้เป็นนกยักษ์และปีเตอร์มีคำสั่งให้ยิงนกตัวนี่
แน่แหละทู้ตเทิลส์ทำตาคำสั่ง และเวนดี้ก็ล่วงลงพื้น โชคยังดีเพราะธนูไปปักเข้าที่กระดุม(จูบ)ที่ปีเตอร์ให้เธอไว้พอดี
และโทษของทิงคือห้ามเข้าใกล้ปีเตอร์ตลอดสัปดาห์
พวกเด็กหลงรวมทั้งจอห์นและไมเคิลช่วยกันสร้างบ้านล้อมรอบเวนดี้
เมื่อเวนดี้ตื่นเด็กๆก็ขอให้เธอเป็นแม่ คืนนั้นเวนดี้เล่านิทานและพาเด็กๆเข้านอนในบ้านใต้ดิน
ที่บึงนางเงือกเด็กหลงทางนอนเล่นอยู่บนโขดหินปล่อยเกาะโดนมีเวนดี้นั่งเย็บผ้าอยู่แถวนั้น
ทันใดนั้นแสงอาทิตก็ดับลงน้ำพันเย็นยะเยือก นี้มันลางร้าย “ดำน้ำ” ปีเตอร์สั่ง เรือโจรสลัดที่จับตัวไทเกอร์ลิลี่เจ้าหญิงของพวกผิวแดงแล่นมาในความมืด
เธอถูกมัดและกำลังจะถูกทิ้งไว้ที่โขดหินเพื่อให้จมน้ำตายตอนน้ำขึ้น ปีเตอร์ทนไม่ได้จึงปลอมเสียงเป็นฮุกตะโกนสั่งให้ปล่อยนางไป
แต่แล้วฮุกตัวจริงก็ปรากฏตัวขึ้น จากนั้นก็เกิดการต่อสู้ระหว่างเด็กหลงและโจรสลัด
ซึ่งแน่นอนฮุกต้องต่อกรกับปีเตอร์ เพื่อความยุติธรรมปีเตอร์ยื่นมือเพื่อดึงให้ฮุกขึ้นมายืนในพื้นที่ระดับเท่ากันแต่ฮุกกลับใช่จังหวะนั้นทำร้ายปีเตอร์
โชคดีที่จระเข้ติ๊กตอกมาก่อนฮุกเลยต้องตาลีตาเหลือกว่ายน้ำหนีไป
เด็กหลงหาเวนดี้และปีเตอร์ไม่พบและคิดว่าพวกเขาคงกลับไปแล้ว
เด็กหลงจึงกลับบ้านใต้ดิน แต่ความจริงคือเวนดี้จมน้ำปีเตอร์ไปช่วยเธอ เธอเหนื่อยเกินกว่าจะบินและเขาก็บาดเจ็บเช่นกันทั้งคู่อยู่บนโขดหินที่กำลังจะจม
โชคดีที่ว่าวของไมเคิลลอยมาติดมือปีเตอร์ เขาผูกมันกับเวนดี้และเธอก็ลอยไป ปีเตอร์อยู่คนเดียวเขากลัวนิดหน่อยเพราะน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ
แต่แล้วเขาก็ยืนขึ้นอย่างองอาจและบอกว่า “การตายคือการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่มาก”
โชคดีที่นกเนฟเวอร์ว่ายน้ำเอารังของมันมาช่วยปีเตอร์ไว้ได้ทัน
ผลจากการช่วยไทเกอร์ลิลี่ทำให้ได้พวกผิวแดงเป็นพวก พวกผิวแดงอาสาเฝ้ายามให้
เวนดี้เล่านิทานให้เด็กหลงฟัง
มันป็นนิทานเรื่องที่ปีเตอร์เกลียด เรื่องของเธอและน้องๆบินหนีพ่อแม่มายังเนฟเวอร์แลนด์
เล่นสนุกจนพอใจและบินกลับบ้านเพราะแม่จะยังเปิดหน้าต่างรอพวกเขา
พวกเขาโตเป็นหนุ่มเป็นสาวที่สง่างาม ความรักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอ
ปีเตอร์ค้านพร้อมเล่าเรื่องของเขาที่ว่าเมื่อเขาบินกลับไปแม่ก็ลงกลอนประตูและมีทารกคนใหม่แล้วนั้นทำให้เวนดี้
ไมเคิลและจอห์นกังวล และตัดสินใจกลับทันทีนั้น ปีเตอร์กังวลกว่าแต่เขาก็ไม่รั้งเธอ
พวกเด็กหลงขอไปกับเวนดี้ด้วยยกเว้นแต่ปีเตอร์ แต่ก่อนที่ใครจะได้ไป พวกผิวแดงถูกโจรสลัดจู่โจม
ฮุกผู้แสนจะเจ้าเล่ห์สั่งซมีให้ตีกลองทอมทอม
เพื่อหลอกว่าพวกผิวแดงชนะเพราะทุกครั้งที่พวกผิวแดงชนะจะตีกลองนั้น
พวกเด็กหลงทางและเวนดี้จึงเตรียมจะบิกลับบ้านต่ก็โดนโจรสลัดรวบตัวไว้ได้
ฮุกแอบเข้ามาในบ้านใต้ดินที่ปีเตอร์นอนหลับอยู่ เขาเกือบจะฆ่าปีเตอร์แต่กลับมีความคิดที่จะวางยา
เขาใส่ยาพิษลงในชามยของปีเตอร์และย่องออกไป ทิงรีบมาปลุกแพนและบอกเรื่องที่เด็กๆโดนจับตัวไป
ปีเตอร์รีบจะไปช่วยแต่ก่อนไปเขาอยากจะกินยาก่อนเพื่อพอเวนดี้รู้จะได้สบายใจ
ทิงรีบบอกว่าได้ยินรื่องยาพิษ แต่ปีเตอร์ไม่เชื่ว่าฮุกจะเข้ามาได้และเขาไม่มีทางงีบหลับ
ทิงจึงแย่งยามากินจนเกลี้ยง ทิงร่วงลงแสงของเธอใกล้ดับเธอกำลังจะตาย
แพนรีบหาวิธีช่วย เขาถามเด็กๆทุกคนที่หลับและกำลังฝันถึงเนฟเวอร์แลนด์ว่าชื่อเรื่องแฟรี่ไหม
ถ้าเชื่อให้ปรบมือเสียงปรบมือทำให้ทิงรอดพวกเขาไปช่วยเด็กๆและเวนดี้ได้ทัน
ระหว่างการต่อสู้ของแพนและฮุก แพนเตะฮุกลงจากเรือซึ่งข้างล่างไม่ใช้น้ำทะเลแต่เป็จระเข้ติ๊กตอก
นั้นคือจุดจบของฮุก...
เวนดี้
จอห์นและไมเคิลอยู่ระห่างทางบินกลับบ้านแต่คนที่มาถึงบ้านของครอบครัวดาร์ลิ่งก่อนคือปีเตอร์และทิง
ปีเตอร์ลงกลอนหน้าต่างเพราะยากให้เวนดี้คิดว่าพ่อแม่ลืมพวกเขาแล้ว เธอจะได้ไปอยู่เนฟเวอร์แลนด์กับเขาตลอดไป
แต่เมื่อเห็นมิสซิสดาร์ลิงที่นอนหลับทั้งน้ำตาเพราะความเศร้าที่ลูกๆหายไปเขาก็ใจอ่อนเปิดหน้าต่างไว้อย่างเดิม
เมื่อเด็กๆกลับมาทุกคนดีใจโผเข้ากอดกัน
เด็กหลงรออยู่ข้างล่าง รอเวนดี้อธิบายเรื่องทั้งหมด
มิสเตอร์และมิสซิสดาร์ลิ่งจึงรับเลี้ยงเด็กหลงทั้งหมด ท้ายสุดเวนดี้ชวนให้ปีเตอร์มาอยูด้วยแต่เขาปฏิเสธ
มิสซิสดาร์ลิ่งยื่นข้อเสนอ เธอจะอนุญาติให้เวนดี้ไปเนฟเวอร์แลนด์ปีละครังในช่วงฤดูไม้ผลิ
เวนดี้ถามปีเตอร์ว่าเขาจะไม่ลืมเธอใช่ไหม และเขาก็ให้สัญญา แต่ปีเตอร์ก็มาบ้างไม่มาบ้างและทิ้งช่วงห่างมากขึ้น
เวนดี้เองก็โตมากขึ้น จนเธอแต่งงานและมีลูก ลูกสาวของเธอชื่อเจน เจนชอบฟังนิทานเรื่องปีเตอร์
แพนที่แม่เล่า
คืนหนึ่งปีเตอร์มารับเวนดี้เขาไม่รู้ว่าเขาลืมเธอไปหลายปีมาก
เขาตกใจที่เธอโต และเวนดี้ก็ลืมวิธีบินไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงพาเจนไปแทน และเมื่อเจนโต
เขาจะพามาร์กาเร็ตลูกกสาวของเจนไปแทน เมื่อมาร์การเร็ตโตก็จะพาลูกสาวของเธอไป
และจะวนอยู่แบบนี้เรื่อยไป ตราบเท่าที่เด็กยังไร้เดียงสาและไร้หัวใจ
เจดีย์ เจลดา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)