วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559

The Secret Garden ไขกญแจเข้าสวนลับไปด้วยกัน

The Secret Garden

เรื่องราวการก้าวข้ามผ่านปัญหาของหนูมารีคนขวางโลก
 
ปัญหาของมารี : ก็แค่ เกิดมาจากแม่ที่เป็นสาวสังคม และไม่ได้อยากจะมีลูกเลยด้วยซ้ำ
มารีเกิดมาก็หน้าตาไม่สะสวยตัวก็ผอมกะร่อง แม่ของเธออาย จึงสั่งคนใช้ให้ดูแลเธอให้อยู่แต่ในห้องอย่าให้หล่อนได้เห็นหน้าลูกสาวขี้เหร่คนนี้อีก
มารีจึงเหมือนเด็กกำพร้ากลายๆ 
แต่ไม่นานก็เกิดโรคระบาด และหลังจากนั้นเธอก็กลายเป็นเด็กกำพร้าอย่างสมบรูณ์แบบ...
       


เธอไม่เคยได้รับความรักจากผู้ให้กำเนิดอย่างที่เด็กทั่วไปควรจะได้รับ เมื่อไม่เคยได้รับความรักจึงรักใครไม่เป็น และเพราะบรรดาคนใช้ต้องดูแลเธอและจำกัดให้เธออยู่แต่ในห้องตามคำสั่งนายหญิง ดังนั้นเพียงแค่มารีเอ่ยปาก ไม่ว่าเธออยากได้อะไร เธอก็จะได้ดั่งใจทุกครั้งไป ทำให้เธอกลายเป็นคนเอาแต่ใจ และ ก้าวร้าว

 เธอได้เรียนรู้สื่งต่างๆมากมายเมื่อเธอได้ย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของคุณคราเวน(พ่อม่ายผู้จมอยู่กับอดีตที่เจ็บปวด)

อดีตของคุณคราเวน : ภรรยาอันเป็นที่รักยิ่งของเขาได้เสียชีวิตลงเมื่อเธอให้กำเนิดบุตรชาย ชื่อว่า คอลลิน คุณคราเวนเสียใจมากจนไม่อาจมองหน้าลูกชายได้อีก เพราะหน้าตาของคอลลินช่างละม้ายคล้ายภรรยาของเขา โดยเฉพาะที่ดวงตา 
สวนของผู้เป็นภรรยาถูกปิดตายหลังจากที่เธอเสีย เพราะเขาไม่อาจทนกับความเศร้าและคาวมอาลัยคิดถึงที่เขามีต่อภรรยาได้ และเช่นเดียวกันกับสวน คอลลินเองก็ถูกปิดตาย เพราะไม่อาจทำใจมองหน้าลูกได้ คุณคราเวนจึงสั่งบรรดาคนรับใช้ให้เป็นคนดูแลคอลลินแทนเขา
ซึ่งนับช่วงเลาที่ล่วงเลยตั้งแต่ภรรยาของเขาเสียชีวิต จนกระทั่งหนูมารีย้ายมาอยู่ที่คฤหาสนนี่ก็เป็นเวลา 10 ปีแล้ว 

และเพราะมารีเป็นคนขวางโลกเธอจึงไม่เคยมีเพื่อนและค่อนข้างเก็บตัว แต่เพราะคำพูดของ มาร์ธา พี่เลี้ยงคนใหม่ของเธอที่พร่ำบอกกให้เธอออกไปเล่นนอกคฤหาส์บ้านจึงทำให้เธอได้เจอกับเพื่อนสนิทคนแรก ก็คือ เจ้านกกร็อบบิ้น และมันก็ได้ช่วยให้เธอค้นพบ "สวนลับ" ของคุณคราเวน


ใครคือมาร์ธา : มาร์ธาเป็นเพียงคนรับใช้สาวชาวบ้าน ซื่อๆพูดอะไรตรงไปตรงมาและช่างเจรจา เธอมีพี่่น้องทั้งหมด12คน เมื่อมาเจอมารีเธอจึงมองว่ามารีเหมือนน้องสาวคนนึงของเธอ มารีไม่เคยเจอพี่เลี้ยงหรือคนใช้แบบมาร์ธา ที่ค่อยพูดคุยกับเธอ เถียงเธอ ไม่ยอมแต่งตัวให้เธอ และอยากให้เธอออกไปเล่นข้างนอกบ้าง มันจึงเหมือนกับมาร์ธาได้ปลุกอะไรบางอย่างในตัวมารีขึ้นมา 

 ธรรมชาติในสวนลับค่อยๆเยียวยารักษาจิตใจท่แห้งเหี่ยวของหนูมารีคนขวางโลก โดยผ่านการช่วยเหลืออีกแรง คือ ดิคอน น้องชายของมาร์ธา เขาได้นำความรู้ที่เขามีเกี่ยวกับธรรมชาติ ถ่ายทอดให้มารี
 
เทพารักษ์ดิคคอน : ครั้งแรกที่มารีเจอเขา เขากำลังนั่งพิงต้นไม้เป่าขลุ่ยที่ืทำเองโดยมีลูกสัตว์นานาชนิดอยู่ลายล้อมและฟังเพลงของเขา เขาดูเป็นมิตร วางใจได้ และมารีก็เชื่อใจเขา เขาเป็นคนคอยให้คำแนะนำเรื่องการปลูกต้นไม้ดอกไม้ในสวนลับแก่มารี เขาเป็นคนเชื่อมมารีเข้ากับธรรมชาติ ทำให้เธอเห็นว่าธรรมชาติมันสวยงามเพียงใด 

จากเด็กที่ผอมกะร่องหน้าตาซีดเซียว พอได้ออกกำลัง ได้ออกมาวิ่งเล่น ถอนต้นไม้ ปลูกดอกไม้ ก็ทำให้เธอกินอาหารได้มากขึ้นร่างกายแข็งแรงขึ้น 
การได้พบเจอผู้คนใหม่ๆที่ไม่ได้ตามใจเธอก็ทำให้เธอต้องเรียนรู้ที่จะปรับปรุงนิสัยให้เป็นคนที่ดีขึ้น




ระหว่างนั้นมารีก็ได้พบกับ คอลลิน ลูกชายของคุณคราเวนที่เป็นคนขวางโลกหนักกว่าเธอเสียอีก เธอได้ช่วยเขา อย่างที่มาร์ธาได้ช่วยเธอ โดยการพาเขาออกมาเจอแสงแดด เจอลม สูดกลิ่นไอดินในสวนลับอย่างที่เธอทำมาก่อน
เพียงแต่ใช้วิธีที่ต่างไปจากที่มาร์ธาบอกเธอ เพราะคอลลินเป็นเด็กอารมณ์ร้ายเอาแต่ใจชอบออกคำสั่งและคิดว่าตัวเองจะตายเสมอ วันนึงขณะที่คอลลินกำลังอาละวาทเพราะมารีมาคุยเป็นเพื่อนเขาช้ากว่าวันอื่น มารีก็รู้สึกหวุดหงิดและโมโหกับพฤติกรรมของคอลลินมาก วันนั้นเด็กสองคนจึงตะคอกใส่กันเป็นการใหญ่ ซึ่งคนที่ชนะคือ หนูมารีของเรา ส่วนคอลลินก็ช็อคไปเลย  เป็นไงล่ะเจอคนจริง55555
แต่วิธีโหดๆแบบนี่ก็ใช้ได้ผลกับเด็กอย่างคอลลิน

หลังจากนั้นเด็กทั้งสามก็ช่วยกันชุบชีวิตของสวนลับที่แห้งเหี่ยวไปเกือบสิบปี และในขณะนั้นสองในสามของเด็กๆก็ได้ถูกมนตราของสวนลับเยียวยาจิตใจจนเป็นเด็กที่สมบรูณ์ทั้งกายใจ
หลังจากนั้น คอลลิน ก็ได้ดึงคุณคราเวนออกจากอดีตที่ขื่นขม ทำให้เขารู้ว่าแม้ไร้ซึ้งภรรยาผู้เป็นที่รัก เขาก็ยังมีลูกชายที่น่ารักและสมบรูณ์แข็งแรง 

บางครั้งปัญหาที่เด็กพบเจอเด็กก็ต้องก้าวข้ามผ่านปัญหานั้นมาด้วยตัวของเด็กเอง
คนที่ก้าวผ่านปัญหาได้ คือ คนที่เก่ง และโตแล้ว
บางครั้งก็ไม่ใช่แค่เด็กที่มีปัญหา ผู้ใหญ่เองก็มี และคุณคราเวนก็ทำให้เราเห็นว่าผู้ใหญ่ที่จมอยู่ในปัญหามันเป็นอย่างไร หากเขายอมรับความจริงให้ได้เรืองภรรยาที่เสียไปและอยู่กับปัจจุบันปัญหานี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
คอลลินเองก็ให้กำลังใจตัวเองดี : เขาบอกว่าถ้าเขามีหน้าตาเหมือนแม่มาก แล้วพ่อรักแม่มาก พ่อก็ต้องรักเขามาก
เงาของมิสซิสคราเวน ยังคงมีอยู่ทั่วไปทั้งคฤหาสน์ เพราะยิ่งคุณคราเวนพยายามหนี ปิด เรื่องภรรยาของเขามากเท่าไหร่ แต่ทุกคนก็ยังสัมผัสถึงความเป็นมิสซิสคราเวนอยู่ คนใช้ก็ยังแอบพูดคุยถึง ยังมีสวนลับ ที่เป็นสัญญาลักษณ์ของเธอ ยังมีรูปของมิสซิสคราเวนในห้องของคอลลิน คอลลินเอาม่านปิดรูปของคุณแม่มาตลอดจนวันที่เขาเปิดม่านเขาจึงพบว่ารูปของคุณแม่ของเขาเต็มไปด้วยความรัก ความเมตตา

ความแตกต่างของสวนลับ และคฤหาสน์ของคุณคราเวน
คฤหาสน์ที่ใหญ่โต โอ่โถง มีห้องต่างๆมากมาย เป็นระเบียบมีกฏเกณฑ์ ทำให้ผู้อยู่รู้สึกได้ถึงคามอึดอัด หนัก ไม่มีอิสระ โดนกดอยู่ตลอดเวลา
แตกต่างจากสวนลับ ที่เป็นอิสระ มีชีวิต มีการเติบโตเคลื่อนไหว รู้สึกปลอดโป่ง สบาย

มารีเดินทางมาทีคฤหาสน์ ในฤดูหนาว ทุกอย่างยิ่งหม่นหมอง เหมือนจิตใจของมารี คอลลิน และคุณคราเวนในตอนนั้น
และเมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวต่างๆได้เกิดขึ้นกับมารี และคอลลิน และตอนใกล้จะจบของเรื่อง ก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูใบไม้ผลิ แทนการเกิดใหม่ของสวน และการเกิดใหม่ของทุกตัวละคร ธรรมชาติสามาถเยียวยา รักษาจิตใจของคนเราได้

                                                                                                                                  เจลดา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น